สำหรับผู้กู้ที่เป็นคนไทยที่อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี และกู้เพื่อตนเองและคนในครอบครัวเท่านั้น
นโยบายการป้องกันความลับลูกค้า
ข้อตกลงและเงื่อนไขสำหรับการให้สินเชื่อส่วนบุคคลและการใช้บริการ (มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566) ข้าพเจ้าผู้สมัครสินเชื่อส่วนบุคคล (“ผู้กู้”) ตกลงขอรับสินเชื่อส่วนบุคคลจาก บริษัท สบายใจมันนี่ จำกัด ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0105562025743 ที่ตั้งสำนักงาน เลขที่ 34 ห้อง B204 ชั้น 2 อาคารซีพี ทาวเวอร์ 3 อาคาร ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร (“ผู้ให้กู้”) ตามวงเงินที่ผู้ให้กู้จะอนุมัติ โดยผู้กู้สามารถสมัครและใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันของสบายใจมันนี่ (“แอปพลิเคชัน”) หรือชื่ออื่นที่ผู้ให้กู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงในอนาคต ผู้กู้ตกลงว่าสัญญากู้เงินนี้ ใบสมัครของผู้กู้ หนังสือแจ้งผลการพิจารณาสินเชื่อและ/หรือข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่นใดที่เกี่ยวกับการกู้เงินตามสัญญานี้ และเอกสารอื่นที่ผู้ให้กู้แจ้งให้ผู้กู้ทราบเป็นครั้งคราว รวมถึงคำขอความตกลงและยินยอมของผู้กู้ที่ได้กระทำผ่านทางโทรศัพท์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนของผู้ให้กู้ สื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือช่องทางอื่นใด ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ โดยผู้กู้ตกลงยอมรับและผูกพันและตามข้อตกลงและเงื่อนไขต่างๆของการให้สินเชื่อส่วนบุคคล (“ข้อตกลงและเงื่อนไข”) ทุกประการดังนี้ ข้อ 1. วงเงินสินเชื่อและการเบิกรับเงินกู้ ผู้กู้ตกลงกู้เงินตามจำนวนที่ผู้ให้กู้อนุมัติและแจ้งให้ผู้กู้ทราบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งผู้กู้สามารถเบิกรับเงินกู้ภายในวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ โดยอาจทำได้หลายวิธีดังนี้ 1.1 ขอเบิกรับเงินกู้เพื่อชำระราคาค่าสินค้าหรือค่าบริการแบบผ่อนชำระกับเอเย่นต์ที่ร่วมรายการ(“เอเย่นต์”) ได้แก่ ผู้จำหน่ายสินค้า ผู้ให้บริการ ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ตัวแทนจำหน่ายการท่องเที่ยว(Travel Agency) ผู้ให้กู้นำเที่ยว หรือผู้ให้กู้ผู้รับประกันภัยการเดินทาง ที่ผู้ให้กู้กำหนด 1.2 ใช้สินเชื่อด้วยวิธีการอื่นใดที่ผู้ให้กู้จะจัดให้มีขึ้นในภายหน้า คู่สัญญาตกลงว่าการใช้เลขที่สัญญาหรือเลขประจำตัวประชาชนควบคู่กับการลงลายมือชื่อหรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์บนใบบันทึกรายการค่าสินค้า/บริการ(Sale Slip)หรือบนใบยืนยันการจองโปรแกรมทัวร์(Booking Confirmation) หรือบนเครื่องรับลายมือชื่อ(Signa-true Pad)หรือบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นตามที่ผู้ให้กู้กำหนด การใช้รหัสประจำตัว (PIN) รหัสผ่าน (Password , Passcode)รหัสผ่านใช้ครั้งเดียว (OTP) การแสกนคิวอาร์โค้ด (QR Code) ผ่านแอปพลิเคชัน ข้อมูลที่สร้างจากข้อมูลชีวภาพ (Biometrics) การใช้ข้อมูลเสียง (Voice Record) และข้อมูลการทำรายการซึ่งบันทึกในรูปแบบอื่นใดๆ การใช้รหัสทุกประเภท หรือข้อมูลจากการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้กู้ในรูปแบบดิจิทัลหรือรูปแบบอื่นใดที่กฎหมายหรือผู้ให้กู้กำหนดหรือออกให้หรือผู้กู้กำหนดขึ้น(รวมเรียกว่า “รหัสผ่าน”) เป็นการลงลายมือชื่อ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งใช้แทนเครื่องหมายเฉพาะประจำตัวของผู้กู้ที่ทีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายอันสามารถใช้เป็นหลักฐานในการตกลงการให้ความยินยอมทำรายการ และการรับเงินสินเชื่อไปจากผู้ให้กู้ กับทั้งสามารถใช้ฟ้องร้องบังคับคดีได้ตามกฎหมาย ในการนี้ให้ใบบันทึกรายการ ใบเสร็จรับเงิน รายงานการเบิกจ่ายที่บันทึกโดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นของผู้ให้กู้ ธนาคาร เอเย่นต์และผู้ให้บริการอื่น อีเมล SMS บันทึกการติดต่อระหว่างผู้ให้กู้กับผู้กู้ผ่านโทรศัพท์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือช่องทางอื่นที่เกี่ยวข้องกับการให้สินเชื่อ สำเนา ภาพถ่ายหรือบันทึกไม่ว่ารูปแบบใดๆของเอกสารหรือข้อมูลดังกล่าว เป็นหลักฐานการใช้สินเชื่อและการทำรายการที่มีผลผูกพันผู้กู้ทุกประการ ทั้งนี้ ผู้กู้ตกลงยินยอมจัดทำและลงนามในเอกสารและสัญญาและการกระทำการใดๆ เกี่ยวกับการใช้สินเชื่อและสัญญากู้เงินสินเชื่อส่วนบุคคลเมื่อผู้ให้กู้ร้องขอและให้ถือว่าสัญญานี้มีผลบังคับนับตั้งแต่วันที่ผู้ให้กู้ได้ทำรายการเกี่ยวกับการใช้สินเชื่อตามข้อ 1.1 และ/หรือ 1.2 แล้วเสร็จและถือว่าผู้กู้ได้รับเงินกู้ตามสัญญานี้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วนับแต่วันที่ผู้ให้กู้ได้ทำรายการเบิกใช้สินเชื่อดังกล่าวแล้วเสร็จ โดยผู้กู้ไม่ต้องลงนามในหลักฐานการรับเงินกู้ใดๆ ให้แก่ผู้ให้กู้อีก ข้อ 2. อัตราดอกเบี้ยและวิธีคิดดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมและวิธีคิดค่าธรรมเนียม 2.1 ผู้กู้ตกลงให้คิดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราที่ผู้ให้กู้อนุมัติและแจ้งให้ผู้กู้ทราบ สำหรับระยะเวลานับแต่วันที่เบิกรับเงินกู้ครั้งแรกจนถึงวันครบกำหนดจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ดอกเบี้ยคำนวณจากต้นเงินกู้ที่ผู้กู้ได้เบิกรับและยังไม่ได้ชำระคืนแก่ผู้ให้กู้นับแต่วันที่เบิกรับเงินกู้ครั้งแรก 2.2 ผู้กู้ตกลงให้คิดค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินสินเชื่อ (Front-end Fee) ในอัตราที่ผู้ให้กู้อนุมัติและแจ้งให้ผู้กู้ทราบ โดยคิดเป็นร้อยละของเงินต้น ตามจำนวนวงเงินสินเชื่อที่มีการเบิกใช้ 2.3 ในกรณีที่ผู้กู้ผิดนัด หรือผิดสัญญานี้ไม่ว่าข้อหนึ่งข้อใด ผู้กู้ตกลงให้ผู้ให้กู้คิดดอกเบี้ยกรณีผิดนัดชำระหนี้ ในอัตราเพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยปกติสูงสุดที่ระบุในสัญญา อีกไม่เกินร้อยละ 3 (สาม) ต่อปี โดยคำนวณบนฐานเงินต้นของค่างวดที่ค้างชำระในแต่ละงวดนับแต่วันที่ผู้กู้ผิดนัด หรือผิดสัญญาเป็นต้นไปจนถึงวันที่ศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้อง และคำนวณบนฐานเงินต้นที่ค้างชำระทั้งจำนวนนับจากวันที่ศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น ทั้งนี้เมื่อรวมดอกเบี้ย ค่าบริการ ค่าปรับ และค่าธรรมเนียมแล้ว จะต้องไม่เกินอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ผู้ให้กู้ประกาศกำหนดในแต่ละขณะเวลา ซึ่งในขณะนี้เท่ากับอัตราร้อยละ 25 (ยี่สิบห้า) ต่อปี ข้อ 3. การชำระคืนเงินกู้ ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และค่าใช้จ่าย 3.1 ผู้กู้ตกลงชำระต้นเงินกู้ที่เบิกรับไปจากผู้ให้กู้และดอกเบี้ยตามข้อ 2. ให้แก่ผู้ให้กู้เป็นงวดๆ โดยผู้กู้ตกลงชำระค่างวด ตามเอกสารแนบท้าย 1 (ยกเว้นงวดสุดท้าย ผู้กู้ตกลงชำระต้นเงินและดอกเบี้ยที่ค้างชำระจนครบถ้วน) ภายในเวลา 16.30 น. ของวันครบกำหนดชำระนั้น ตามเวลาในประเทศไทย (GMT+7) และผู้กู้ตกลงชำระต้นเงินกู้พร้อมพร้อมดอกเบี้ยให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่ผู้ให้กู้กำหนด 3.2 ในกรณีที่ผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้อันเป็นเหตุให้ผู้กู้ต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราผิดนัดชำระหนี้นับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไป นอกจากผู้กู้จะต้องนำเงินค่างวดที่ต้องชำระตามงวดที่ค้างชำระทั้งหมดมาชำระแล้ว ผู้กู้จะต้องนำเงินค่าดอกเบี้ยส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยในอัตราผิดนัดชำระหนี้กับดอกเบี้ยในอัตราปกติ และส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยในอัตราปกติกับดอกเบี้ยในอัตราโปรโมชั่น คำนวณนับแต่วันผิดนัดชำระหนี้จนถึงก่อนวันนำเงินเข้ามาชำระหนี้มาชำระให้แก่ผู้ให้กู้เป็นอีกส่วนหนึ่งเพิ่มเติมต่างหากจากจำนวนเงินค่างวดที่ต้องชำระตามงวดที่ค้างชำระทั้งหมดด้วยจึงจะถือว่าเป็นการผ่อนชำระคืนเงินกู้ตามงวดครบถ้วนทันงวดการผ่อนชำระในกรณีที่ผิดนัดชำระหนี้งวดแรกให้ถือว่าผู้กู้และผู้ให้กู้ตกลงยกเลิกสัญญาเงินกู้ฉบับนี้โดยอัตโนมัติ 3.3 ถ้าถึงกำหนดชำระคืนเงินกู้ ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าธรรมเนียม และ/หรือค่าใช้จ่ายใดๆ ตามสัญญานี้ ที่ผู้กู้จะต้องชำระให้แก่ผู้ให้กู้แต่ผู้กู้ไม่ได้นำมาชำระให้แก่ผู้ให้กู้ ให้ถือว่าผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้อันเป็นการผิดสัญญา และผู้ให้กู้มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้กู้ชำระหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ทันที ผู้กู้ตกลงยินยอมชำระสินเชื่อทั้งหมดให้แก่ผู้ให้กู้ นอกจากนี้ผู้กู้ต้องรับผิดชอบในการชำระค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย ในการดำเนินคดีและค่าทนายความทั้งหมดอันเกิดจากการดำเนินการตามกฎหมายหรือการอื่นๆ เพื่อการเรียกร้อง ฟ้องร้อง หรือบังคับคดีจนเต็มจำนวนทุกอย่าง 3.4 ผู้กู้ตกลงให้ผู้ให้กู้จัดสรรเงินทุกจำนวนที่ผู้ให้กู้ได้รับชำระหนี้เข้าชำระหนี้ตามลำดับก่อนหลัง ดังต่อไปนี้ 3.4.1 ชำระค่าใช้จ่าย/ค่าธรรมเนียม (รวมทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม ถ้ามี) 3.4.2 ชำระดอกเบี้ย 3.4.3 ชำระคืนต้น อย่างไรก็ตาม ผู้กู้ตกลงให้ผู้ให้กู้สามารถจัดสรรเงินเข้าชำระหนี้แตกต่างไปจากลำดับก่อนหลังที่กล่าวข้างต้นได้ แต่ต้องไม่ทำให้ผู้กู้เสียประโยชน์ไปจากการเปลี่ยนแปลงลำดับการจัดสรรใหม่นี้ ทั้งนี้ ผู้กู้ตกลงให้ผู้ให้กู้จัดสรรเงินทุกจำนวนที่ผู้ให้กู้ได้รับชำระหนี้ เข้าชำระหนี้ตามยอดหนี้แต่ละงวดโดยตัดค่าใช้จ่าย/ค่าธรรมเนียม (ถ้ามี) ดอกเบี้ยและเงินต้นของยอดหนี้ที่ผู้กู้ค้างชำระนานที่สุดก่อน แล้วจึงตัดชำระหนี้ที่ค้างชำระนานรองลงมาตามลำดับ (ตัดชำระหนี้แบบแนวนอน) 3.5 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ(ถ้ามี) นอกจากนี้ผู้กู้ตกลงชำระค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้(รวมทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม ถ้ามี) 3.5.1 ค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้กับหน่วยงานราชการ - ค่าอากรแสตมป์ตามที่กฎหมายกำหนด โดยที่มีการเรียกเก็บตามรายละเอียดใบแจ้งหนี้ 3.5.2 ค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้แก่หน่วยงานภายนอกหรือบุคคลอื่น - ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบข้อมูลเครดิต - ค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้ค้างชำระ - ค่าธรรมเนียมในการเบิกถอนสินเชื่อตามที่ผู้ให้กู้ ธนาคาร และ/หรือผู้ให้บริการแต่ละรายกำหนด - ค่าธรรมเนียมในการชำระเงินผ่านช่องทาง ธนาคาร และ/หรือผู้ให้บริการรับชำระเงินแต่ละรายกำหนด 3.5.3 ค่าใช้จ่ายที่ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น หรือความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นตามหลักเกณฑ์ของผู้ให้กู้ หรือการผิดนัดชำระของผู้กู้หรือการให้สิทธิใดๆของผู้ให้กู้ภายใต้สัญญานี้ แล้วแต่กรณี รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีความและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ผู้กู้ต้องเสียไปเนื่องจากเหตุดังกล่าวโดยผู้กู้ตกลงชดใช้ให้แก่ผู้ให้กู้เต็มจำนวน ข้อ 4. การผิดนัดหรือผิดสัญญา 4.1 หากผู้กู้ถึงแก่กรรม ให้ถือว่าหนี้ทั้งหมดตามสัญญานี้ถึงกำหนดชำระทันที โดยให้ผู้ให้กู้หักเงินของผู้กู้หรือเงินอื่นใดอันผู้กู้พึงจะได้รับเพื่อชำระหนี้ตามสัญญานี้ให้แก่ผู้ให้กู้ได้ทันที หากเงินดังกล่าวไม่เพียงพอกับการชำระหนี้ที่มีอยู่ให้กับผู้กู้ ผู้ให้กู้มีสิทธิเรียกร้องเอาจากกองมรดกหรือทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้กู้เพื่อให้ชำระหนี้จนกว่าครบถ้วนได้ 4.2 หากข้อเท็จจริง คำรับรอง และ/หรือคำยืนยันใดๆ ที่ผู้กู้ให้ไว้ต่อผู้ให้กู้ตามใบสมัคร และ/หรือเอกสารรวมถึงภาพถ่ายที่ผู้กู้ส่งมอบเพื่อประกอบการสมัครหรือการใช้สินเชื่อตามสัญญานี้ ไม่เป็นความจริง ไม่ถูกต้อง หรืออาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญให้ถือว่าหนี้ทั้งหมดตามสัญญานี้ถึงกำหนดชำระทันที โดยผู้ให้กู้มีสิทธิเรียกให้ผู้กู้ชำระหนี้ตามสัญญานี้ได้ทันที หากผู้กู้เปลี่ยนแปลง ชื่อ-สกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล อาชีพ สถานที่ทำงาน ประเภทธุรกิจหรือข้อมูลอื่นใดของผู้กู้ ผู้กู้จะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้ให้กู้ทราบทันทีพร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน โดยแจ้งผ่านทางไลน์ อีเมลหรือช่องทางอื่นที่ผู้ให้กู้กำหนด การเปลี่ยนแปลงจะมีผลภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ผู้ให้กู้ได้รับแจ้ง ทั้งนี้ผู้กู้ตกลงว่าการส่งใบแจ้งการชำระเงินคำบอกกล่าวและจดหมายต่าง ๆ โดยทางไปรษณีย์ อีเมล SMS ไลน์ให้แก่ผู้กู้ตามที่อยู่ อีเมล หรือหมายเลขโทรศัพท์ หรือบัญชีไลน์ที่ผู้กู้ได้แจ้งแก่ผู้ให้กู้ครั้งสุดท้าย และการแจ้งผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้กู้หรือบัญชีไลน์ของผู้ให้กู้ ถือว่าได้ส่งและ/หรือบอกกล่าวให้ผู้กู้ทราบโดยชอบแล้ว 4.3 ในกรณีที่ผู้กู้ผิดนัดหรือผิดสัญญานี้ไม่ว่าข้อหนึ่งข้อใด ผู้ให้กู้ก็จะมีหนังสือแจ้งเหตุแห่งการผิดนัด/ผิดสัญญาให้ผู้กู้ทราบ และในกรณที่ผู้ให้กู้พิจารณาแล้วเห็นว่าเหตุดังกล่าวเป็นเหตุอันอาจแก้ไขได้ ผู้ให้กู้อาจกำหนดระยะเวลาให้ผู้กู้แก้ไขเหตุดังกล่าว หากผู้กู้ไม่ดำเนินการแก้ไขเหตุดังกล่าวภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าหนี้ทั้งหมดตามสัญญานี้ถึงกำหนดชำระทันที ผู้ให้กู้มีสิทธิเรียกให้ผู้กู้ชำระหนี้ตามสัญญานี้ได้ทันที ข้อ 5. การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูล ผู้กู้ตกลงยินยอมให้ผู้ให้กู้เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือข้อมูลใดๆ ของผู้กู้ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จำเป็นเพื่อการให้บริการแก่ผู้กู้ การดำเนินการตามคำขอของผู้กู้ก่อนให้บริการ การมอบหมายงานให้ผู้อื่นดำเนินการแทนผู้ให้กู้เพื่อสนับสนุนการให้บริการ เช่น งานเทคโนโลยีสารสนเทศ งานติดต่อสื่อสาร งานติดตามทวงถาม การโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่และ/หรือการจัดการข้อร้องเรียนเป็นต้น นอกจากนี้ ผู้กู้ตกลงยินยอมให้ผู้กู้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้แก่ ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทนของผู้ให้กู้ ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ พันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกันในลักษณะ co-brand ผู้สนใจจะเข้ารับโอนสิทธิ/หน้าที่และ/หรือผู้ให้บริการ Cloud Computing และยินยอมให้ผู้รับข้อมูลจากผู้ให้กู้ดังกล่าว เก็บรวบรวมใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อไปได้ภายใต้วัตถุประสงค์ดังกล่าว ทั้งนี้รายละเอียดอื่นๆ และสิทธิ ปรากฏในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบนเว็บไซต์ของผู้ให้กู้ www.sabaijaimoney.co.th/privacy-policy ในกรณีที่ผู้กู้มีการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่ผู้ให้กู้เพื่อดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ข้างต้น ผู้กู้ขอรับรองว่าได้รับความยินยอมจากบุคคลอื่นดังกล่าว หรือได้อาศัยหลักเกณฑ์อื่นทางกฎหมายในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นดังกล่าวแก่ผู้ให้กู้ และได้รับแจ้งให้บุคคลอื่นดังกล่าวทราบถึงการเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นแล้ว ข้อ 6. เบ็ดเตล็ด 6.1 หากผู้กู้เลือกวิธีการชำระสินเชื่อด้วยการหักบัญชีเงินฝาก และ/หรือบัญชีรับเงินเดือน ผู้ให้กู้จะหักบัญชีเงินฝากและ/หรือบัญชีรับเงินเดือนในวันที่ครบกำหนดชำระ หากยอดเงินในการหักบัญชีเงินฝาก และ/หรือบัญชีรับเงินเดือนไม่มีหรือมีแต่ไม่เพียงพอที่จะชำระยอดสินเชื่อในเดือนใดได้ทั้งจำนวน ทำให้ผู้ให้กู้มิอาจหักบัญชีเงินฝากได้ครบตามจำนวน ผู้กู้มีหน้าที่ชำระยอดสินเชื่อคงค้างในเดือนนั้นด้วยตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ในการหักบัญชีเงินฝาก และ/หรือบัญชีรับเงินเดือนผู้กู้ตกลงให้ผู้ให้กู้หักเงินจากบัญชีเพื่อชำระ ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ ค่าใช้จ่าย เบี้ยปรับ ดอกเบี้ย ตลอดจนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ให้กู้ก่อนหนี้ประเภทอื่นๆ โดยผู้กู้ตกลงว่าเงินใดๆที่ผู้กู้ต้องชำระให้แก่ผู้ให้กู้ตามสัญญานี้ จะต้องชำระให้แก่ผู้ให้กู้ในลักษณะที่อาจนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที ไม่เกิน 16.30 น.ของวันครบกำหนดชำระนั้น ตามเวลาในประเทศไทย(GMT+7) การกล่าวอ้างถึง “วันทำการ”ในสัญญานี้ให้หมายถึงวันเปิดทำการของผู้ให้กู้ ที่มิใช่วันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดทำการของผู้ให้กู้ตามที่ผู้ให้กู้ประกาศกำหนด 6.2 ผู้ให้กู้จะโอนสิทธิเรียกร้องตามสัญญานี้ รวมทั้งผลประโยชน์ และ/หรือหน้าที่ ไม่ว่าทังหมดหรือบางส่วนให้แก่บุคคลและ/หรือสถาบันการเงินใดๆ ก็ได้ ตามที่ผู้ให้กู้เห็นสมควร โดยผู้ให้กู้จะแจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้กู้ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 (หนึ่ง) งวด ของการชำระเงินกู้หรือดอกเบี้ย หรืองวดของการคิดดอกเบี้ย เว้นแต่กฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น แต่ผู้กู้จะโอนสิทธิประโยชน์ หรือหน้าที่ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนตามสัญญานี้ให้แก่บุคคลใดไม่ได้โดยเด็ดขาด 6.3 การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญานี้ 6.3.1 หากเป็นการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่ส่งผลให้ผู้กู้เกิดภาระหรือความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น จะมีผลเมื่อผู้กู้ให้ความยินยอม 6.3.2 หากเป็นการเปลี่ยนแปลงอื่นนอกจากข้อ 6.3.1 หรือการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย อัตราค่าปรับ อัตราค่าธรรมเนียม อัตราค่าบริการ และค่าใช้จ่ายต่างๆ อัน เนื่องมาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นผู้กู้ตกลงยินยอมให้ผู้ให้กู้มีสิทธิเปลี่ยนแปลงได้ตามที่ผู้ให้กู้เห็นสมควร โดยทำการแจ้งข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญของการเปลี่ยนแปลง ที่ชัดเจนให้ผู้กู้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า (1) ไม่น้อยกว่า 30 (สามสิบ) วัน หรือ (2) ในกรณีเร่งด่วน ไม่น้อยกว่า 7 (เจ็ด) วัน โดย (ก) ทางจดหมาย หรือ (ข) ประกาศทางเว็บไซต์ของผู้ให้กู้และแจ้งทางอีเมล 6.3.3 หากมีกฎหมายและ/หรือกฎเกณฑ์กำหนดให้ผู้ให้กู้ต้องดำเนินการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขไว้เป็นการเฉพาะเป็นอย่างอื่น ผู้กู้ ตกลงยินยอมให้ผู้ให้กู้ ปฏิบัติตามกฎหมายและ/หรือกฎเกณฑ์ดังกล่าวได้ 6.4 ผู้กู้ตกลงว่าใบสมัครของผู้กู้ หนังสือการแจ้งผลการพิจารณาสินเชื่อ หรือเอกสารอื่นใดที่ผู้ให้กู้แจ้งให้ผู้กู้ทราบจำนวนเงินกู้ที่ผู้ให้กู้ตกลงให้กู้ งวดการผ่อนชำระ จำนวนเงินที่ผ่อนชำระแต่ละงวด อัตราดอกเบี้ย วันถึงกำหนดชำระ ค่าอากรแสตมป์ และ/หรือข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่นใดเกี่ยวกับการกู้เงินตามสัญญานี้ เป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ ซึ่งผู้กู้ตกลงผูกพันทุกประการ 6.5 ค่าอากรแสตมป์ ค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมโอนเงินเข้าบัญชี ค่าบริการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ค่าจัดเตรียมเอกสารสัญญา ค่าทนายความ ค่าใช้จ่ายในการทวงถาม ฟ้องร้อง ดำเนินคดี และ/หรือบังคับคดีเพื่อบังคับชำระหนี้ตามสัญญานี้ รวมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมใดๆ ผู้กู้ยินยอมชำระแต่ฝ่ายเดียวทั้งสิ้น 6.6 ในกรณีที่กฎหมายหรือสัญญานี้กำหนดให้ผู้ให้กู้ต้องแจ้งหรือบอกกล่าวให้ผู้กู้ทราบเป็นหนังสือ ผู้ให้กู้จะส่งหนังสือแจ้งหรือบอกกล่าวนั้นทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในสัญญา ใบสมัคร หรือที่อยู่ที่ผู้กู้ใด้แจ้งการเปลี่ยนแปลงไว้เป็นหนังสือครั้งหลังสุดให้ผู้กู้ทราบ หรือทางไลน์ หรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(“อีเมล”) หรือทางข้อความสั้น (SMS)ก็ดี ทั้งนี้บรรดาหนังสือ จดหมาย คำบอกกล่าวใดๆ ของผู้ให้กู้ที่ส่งไปยังผู้กู้ โดยส่งเอง หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนหรือไม่ลงทะเบียนหรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (“อีเมล”) หรือทางข้อความสั้น (SMS)ก็ดี ไปยังที่อยู่ อีเมล หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ผู้กู้ได้ให้ไว้กับผู้ให้กู้ล่าสุด ไม่ว่าจะถึงตัวหรือไม่ถึงตัว และไม่ว่าจะมีผู้ใดรับหรือไม่มีผู้ใดยอมรับไว้ก็ตามหรือส่งให้ไม่ได้ไม่ว่าเพราะเหตุใดให้ถือว่าหนังสือ จดหมายคำบอกกล่าวนั้นได้ถูกส่งถึงผู้กู้โดยชอบแล้ว 6.7 การล่าช้า หรืองดเว้นใดๆ ในการใช้สิทธิ ของผู้ให้กู้ตามกฎหมาย หรือตามสัญญานี้ ไม่ถือว่าผู้ให้กู้สละสิทธิหรือให้ความยินยอมในการผิดสัญญาของผู้กู้ในกรณีนั้น 6.8 ข้อความใดในสัญญานี้หากขัดแย้งกับประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่อง ให้ธุรกิจให้กู้ยิมเงินเพื่อผู้บริโภคของสถาบันการเงินเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2544 (และที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ให้ใช้บังคับเฉพาะที่ไม่ขัดแย้งกับประกาศดังกล่าว 6.9 ภายใต้บังคับข้อ 6.6 ผู้กู้ตกลงว่าการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ให้กู้กับผู้กู้โดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น ผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่น ข้อความสั้น (SMS) ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่และ/หรืออีเมล หรือบัญชีไลน์ที่ระบุไว้) รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการแจ้งผลการพิจารณาสินเชื่อ การแจ้งอัตราดอกเบี้ย ค่าอากรแสตมป์ การแจ้งติดตามทวงถามหนี้และ/หรือข้อกำหนด และเงื่อนไขอื่นใด ที่เกี่ยวกับการกู้เงินตามสัญญานี้ เป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ ซึ่งผู้กู้ตกลงผูกพันทุกประการรวมทั้งสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในกระบวนการพิจารณาตามกฎหมายได้ด้วย ข้อ 7. การเก็บรักษาข้อมูลบัญชีสินเชื่อ ข้อมูลด้านการเงินบัญชี และรหัสผ่านที่ผู้ให้กู้ส่งให้ผู้กู้ หรือผู้กู้กำหนดขึ้น ผู้กู้ตกลงว่าข้อมูลบัญชีสินเชื่อ ข้อมูลด้านการเงินบัญชี และรหัสผ่านที่ผู้ให้กู้ส่งให้ผู้กู้ หรือผู้กู้กำหนดขึ้นเป็นข้อมูลความลับเฉพาะของผู้กู้ ผู้กู้มีหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการเก็บรักษาและไม่เปิดเผย หรือกระทำการใดๆที่ทำให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูล รวมถึงลักษณะสำคัญและวิธีการใช้งานของรหัสผ่านดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ให้กู้ไม่มีนโยบายในการสอบถามรหัสผ่านจากผู้กู้ในทุกกรณีหากผู้กู้เปิดเผยหรือยอมให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลหรือรหัสผ่าน ไม่ว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อ มอบหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีสินเชื่อหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้งานหรือทำรายการ ผู้กู้ต้องรับผิดชอบต่อการใช้บัญชีสินเชื่อและรายการสินเชื่อที่เกิดขึ้นทั้งหมดเสมือนผู้กู้เป็นผู้กู้และทำรายการด้วยตนเอง รวมทั้งต้องรับผิดชอบชำระยอดเงินสินเชื่อ ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ และชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้กู้และบุคคลอื่นเต็มจำนวนจนสิ้นเชิง ข้อ 8. การเก็บรักษาและดูแลความปลอดภัยของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ผู้กู้จะเก็บรักษาและดูแลความปลอดภัยของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นที่ใช้งานหรือทำรายการ ทั้งนี้ผู้กู้ตกลงยอมรับความเสี่ยงและความเสียหายทั้งหมด รวมทั้งความล่าช้า ความผิดพลาด การสูญหาย ถูกปลอมหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการข้อมูล หรือเอกสารที่ส่งมาจากหรือไปยังผู้กู้ โดยไม่ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ให้กู้และผู้ให้กู้ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ รวมทั้งไม่ต้องรับผิดชอบใน กรณีที่มีการดัดแปลง แก้ไข หรือกระทำการใดๆกับโทรศัพท์ สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อันทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลการใช้งาน หรือการทำรายการของผู้กู้ การแก้ไข ดัดแปลงระบบปฏิบัติการ การติดตั้งแอปพลิเคชันหรือชุดคำสั่งที่ไม่ทราบแหล่งที่มาหรือไม่ได้มาจากช่องทางที่ผู้ให้กู้กำหนด การทำธุรกรรมผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ปลอดภัย และการใช้อุปกรณ์สาธารณะหรือการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสาธารณะ ข้อ 9. ใบแจ้งการชำระเงิน ผู้ให้กู้จะส่งใบแจ้งรายการใช้สินเชื่อและยอดชำระให้แก่ผู้กู้ (“ใบแจ้งการชำระเงิน”) ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังอีเมลของผู้กู้หรือผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้กู้หรือผ่านไลน์ของผู้ให้กู้ ก่อนวันครบกำหนดชำระ ข้อ 10. การระงับหรือยกเลิกการให้สินเชื่อ ผู้ให้กู้สงวนสิทธิ์ที่จะระงับหรือยกเลิกการให้สินเชื่อ เมื่อเกิดกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้ 10.1 ผู้กู้ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งของสัญญานี้ 10.2 ผู้ให้กู้พบหรือสงสัยว่าผู้กู้ใช้เอกสารปลอม เอกสารเท็จแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ แจ้งข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือปกปิดข้อมูลในการสมัครและ/หรือยื่นคำขอใดๆ ต่อผู้ให้กู้ ไม่ว่าจะปรากฏขึ้นก่อนหรือภายหลังการอนุมัติสินเชื่อก็ตาม 10.3 ผู้กู้กลายเป็นคนที่ขาดคุณสมบัติหรือความน่าเชื่อถือหรือทำให้ผู้ให้กู้เสียหายไม่ว่าด้วยประการใดๆ หรือมีเหตุอื่นใดตามที่ผู้ให้กู้เห็นสมควรหรือตามกฎหมายหรือหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลได้ประกาศกำหนด 10.4 ผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญานี้ หรือหนี้อื่นใดที่มีต่อผู้ให้กู้หรือบุคคลใดๆ หรือกระทำการใดๆ เพื่อประวิงการชำระหนี้หรือเพื่อไม่ให้ผู้ให้กู้หรือบุคคลใดๆได้รับชำระหนี้ 10.5 ผู้กู้ถูกฟ้องร้องในคดีล้มละลาย มีหนี้สินล้นพ้นตัว ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาหรือเป็นบุคคลที่หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน หรือมีพฤติกรรมอันถือได้ว่าเป็นการฉ้อฉลผู้ให้กู้หรือสถาบันการเงินอื่น ผู้กู้เสียชีวิตสาบสูญ หรือตกเป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือถูกบังคับคดี 10.6 ผู้กู้มีฐานะทางการเงินหรือแหล่งที่มาของรายได้เปลี่ยนแปลงไป หรือประสบปัญหาการว่างงาน การเจ็บป่วยเรื้อรัง หรือทุพพลภาพหรือมีเหตุใดอื่นใดอันอาจเป็นเหตุให้กระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ 10.7 ผู้ให้กู้มีความจำเป็นใดๆทางธุรกิจหรือกฎหมายเปลี่ยนแปลงไปจนอาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการประกอบธุรกิจของผู้ให้กู้ ผู้ให้กู้ยกเลิกการให้สินเชื่อตามสัญญานี้ ในกรณีดังกล่าวข้างต้น ผู้ให้กู้จะแจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้กู้ โดยหากผู้ให้กู้พิจารณาแล้วเห็นว่าเหตุดังกล่าวเป็นเหตุอันอาจแก้ไขได้ ผู้ให้กู้จะกำหนดระยะเวลาพอสมควรเพื่อให้ผู้กู้แก้ไขการผิดสัญญาหรือเงื่อนไขดังกล่าว หากผู้กู้ไม่แก้ไขให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ให้กู้มีสิทธิ์บอกเลิกสัญญานี้ทั้งนี้ไม่ว่าผู้ให้กู้จะให้สิทธิ์เลิกสัญญาหรือไม่ ผู้กู้ยังคงมีหน้าที่ชำระหนี้สินทั้งปวง รวมทั้ง ยอดผ่อนชำระที่เหลืออยู่ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมทั้งหมดให้แก่ผู้ให้กู้ภายในเวลาที่ผู้ให้กู้กำหนด ในกรณีดังหล่าวผู้ให้กู้ สงวนสิทธิ์ที่จะยกเลิกสิทธิพิเศษและสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมในอัตราพิเศษ ที่ได้ให้แก่ผู้กู้แต่ไม่จำกัดเพียงสิทธิในการเข้าร่วมและรับรางวัล ของกำนัล และสิทธิประโยชน์อื่นใดภายใต้รายการส่งเสริมการขายจนกว่าเหตุการณ์ดังหล่าวจะถูกแก้ไข ทั้งนี้การใช้สิทธิของผู้ให้กู้มิใช่การยกเลิกสัญญาจนกว่าผู้ให้กู้จะได้รับชำระหนี้ที่ผู้กู้มีต่อผู้ให้กู้ครบถ้วนและหากผู้ให้กู้ได้รับความเสียหายใดๆ จากกรณี 10.2 และ 10.3 ผู้กู้จะต้องรับผิดชดใช้ต่อผู้ให้กู้ในความเสียหายดังกล่าว ข้อ 11. กรณีผู้กู้ผิดสัญญา หรือ ผิดนัดชำระหนี้ใดๆ ในกรณีที่ผู้กู้ผิดสัญญา หรือผิดนัดชำระหนี้ใดๆ ที่มีต่อผู้ให้กู้ และผู้ให้กู้ได้ติดต่อผู้กู้ไปยังสถานที่หรือข้อมูลการติดต่อที่ผู้กู้ได้ระบุไว้ตามสมควรแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อผู้กู้ได้ ผู้กู้ตกลงและรับทราบว่า ผู้ให้กู้และบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้ให้กู้อาจดำเนินการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กู้จากฐานข้อมูลหน่วยงานของรัฐ และ/หรือหน่วยงานอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลดังกล่าวและผู้ให้กู้อาจใช้ข้อมูลของผู้กู้เพื่อประโยชน์ในการเรียกร้องให้ปฏิบัติตามสัญญา บอกกล่าวเลิกสัญญา หรือติดตามทวงถามหนี้ค้างชำระที่ผู้กู้มีต่อผู้ให้กู้ รวมทั้งเปิดเผยและมอบหมายให้ผู้ให้บริการติดตามและเร่งรัดหนี้สินได้ แล้วแต่กรณีและตกลงให้ผู้ให้กู้สามารถรับชำระหนี้ของผู้กู้จากบุคคลอื่นได้ตามที่ผู้ให้กู้เห็นสมควร ทั้งนี้ผู้กู้ตกลงและรับทราบว่าผู้ให้กู้อาจเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้รับโอนสิทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ใดๆ ตามสัญญานี้ไม่ว่าทั้งหมดนี้หรือบางส่วนจากผู้ให้กู้ รวมถึงบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากผู้ได้รับโอนสิทธิดังกล่าวให้ดำเนินการแทน ข้อ 12. การผ่อนผันหรือผ่อนเวลาแก่ผู้กู้ ผู้กู้ตกลงว่าการที่ผู้ให้กู้ผ่อนผันหรือผ่อนเวลาแก่ผู้กู้ในการปฏิบัติตามสัญญานี้ การล่าช้าหรืองดเว้นใดๆ ตามกฎหมายหรือสัญญานี้เป็นการดำเนินการเฉพาะคราวเท่านั้น และผู้ให้กู้ไม่ผูกพันที่จะต้องผ่อนผันหรือผ่อนเวลาในคราวถัดไปไม่ว่าคราวใดทั้งไม่เป็นการทำให้เสื่อมเสียสิทธิของผู้ให้กู้ภายใต้สัญญานี้ และไม่ถือว่าผู้ให้กู้สละสิทธิเรียกร้องแต่อย่างใด ข้อ 13. ผลผูกพันผู้รับช่วงสิทธิ ผู้กู้ตกลงว่าสัญญานี้มีผลผลพันผู้สืบสิทธิ ผู้รับช่วงสิทธิ รวมถึงทายาทและกองมรดกของผู้กู้ด้วย ผู้ให้กู้มีสิทธิโอนสิทธิหน้าที่ และผลประโยชน์ใดๆ ตามสัญญานี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่บุคคลอื่นได้ โดยผู้กู้ตกลงกระทำการใดๆ เกี่ยวข้องและจำเป็นเพื่อให้การโอนดังกล่าวมีผลสมบูรณ์และใช้บังคับได้ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการลงนามในเอกสารและสัญญาที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ผู้ให้กู้จะบอกกล่าวให้ผู้กู้ทราบล่วงหน้าเป็นหนังสือไม่น้อยกง่า 1 งวดของการชำระคืนเงินสินเชื่อหรือ การคิดดอกเบี้ยยกเว้นในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะว่าไม่ต้องทำการบอกกล่าว ซึ่งรวมถึงโครงการแปลงสินทรัพย์ เป็นหลักทรัพย์ตามเงื่อนไขที่กำหนดในพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 แต่ผู้กู้ไม่มีสิทธิโอนสิทธิตามสัญญานี้ให้แก่บุคคลอื่น ไม่ว่าทั้งหมดหรือแค่บางส่วน ข้อ 14. สินค้าและบริการของเอเย่นต์ ผู้กู้ตกลงว่าผู้ให้กู้ไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของเอเย่นต์ ผู้ขาย หรือผู้ให้บริการ รวมถึงกรณีที่ผู้กู้ไม่สามารถทำรายการได้เนื่องจากวงเงินสินเชื่อไม่เพียงพอ บัญชีสินเชื่อถูกระงับการใช้งาน หรือผู้ให้กู้ ระงับหรือยกเลิก บริการบางประเภทรวมทั้งการปฏิเสธไม่ยอมรับสัญญากู้เงินของเอเย่นต์ ผู้ขาย หรือผู้ให้บริการ หากมีปัญหาสินค้าหรือบริการผู้กู้จะต้องเรียกร้องหรือดำเนินคดีกับเอเย่นต์ ผู้ขาย หรือผู้ให้บริการโดยตรง และไม่เรียกร้องให้มีการใช้สิทธิโต้แย้งกับผู้ให้กู้ หรือให้ผู้ให้กู้ร่วมรับผิดด้วย ข้อ 15. การใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ในการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของผู้ให้กู้ ตลอดจนการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัญญานี้ ผู้กู้ตกลงให้ผู้ให้กู้มีสิทธิเก็บ รวบรวมใช้ เปิดเผยและประมวลผลข้อมูลรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กู้ ประวัติการใช้บริการ การติดต่อสื่อสารบันทึก การทำรายการ Log File บันทึกเสียงสนทนาการโทรศัพท์ และ/หรือการดำเนินการใดๆ ผ่านช่องทางการบริการต่างๆ ของผู้ให้กู้เพื่อการปฏิบัติหน้าที่และการให้บริการตามสัญญานี้ จนกว่าการใช้บริการสินเชื่อของผู้กู้ตามสัญญานี้จะสิ้นสุดลงโดยที่ผู้กู้ไม่มีหนี้ค้างชำระใดๆ ต่อผู้ให้กู้ โดยผู้กู้ตกลงให้ผู้ให้กู้สามารถใช้ข้อมูลและบันทึกที่ผู้ให้กู้จัดเก็บตามข้อนี้เป็นหลักฐานอ้างอิงการกระทำใดๆ ของผู้ให้กู้และผู้กู้ที่ได้กระทำลงได้ ข้อ 16. การระงับหรือยกเลิกบริการใดๆ ผู้กู้ตกลงว่าผู้ให้กู้มีสิทธิเปลี่ยนแปลง ระงับหรือยกเลิกบริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สินเชื่อทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ เฉพาะแต่ผู้กู้รายใดรายหนึ่งเมื่อใดก็ได้ โดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัย หรือเหตุจำเป็นเร่งด่วนอื่นใดที่ไม่สามารถแจ้งให้ทราบล่วงหน้าได้ ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลง ระงับ หรือยกเลิกบริการไม่มีผลต่อสินเชื่อที่ผู้กู้ได้ใช้ไปแล้ว ซึ่งผู้กู้ยังคงมีหน้าที่ต้องชำระให้แก่ผู้ให้กู้จนครบถ้วน ข้อ 17. การให้ข้อมูลหรือดำเนินการตามที่ผู้ให้กู้ร้องขอ ผู้กู้ตกลงจะให้ข้อมูลหรือดำเนินการใดๆ ตามที่ผู้ให้กู้ร้องขอเพื่อในการดำเนินธุรกิจของผู้ให้กู้เป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับการประกอบธุรกิจของผู้ให้กู้ หากผู้กู้ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลหรือดำเนินการใดๆ ปกปิดข้อมูล หรือให้ข้อมูลอันเป็นเท็จผู้ให้กู้ขอสงวนสิทธิ์ที่จะระงับหรือยกเลิกการให้สินเชื่อทันทีโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ข้อ 18. ความอิสระของสัญญา ข้อสัญญาแต่ละข้อเป็นอิสระต่อกัน หากข้อมูลสัญญาข้อใดไม่อาจใช้บังคับได้ตามกฎหมาย ให้ข้อสัญญาข้ออื่นยังคงมีผลสมบูรณ์และใช้บังคับระหว่างคู่สัญญาต่อไป ข้อ 19. การใช้บริการสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชันและบริการอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ในการใช้บริการสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชันและบริการอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทั้งผ่านเว็บไซต์หรือผ่านไลน์ ตามที่ได้รับอนุมัติจากผู้ให้กู้ ผู้กู้ตกลงผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการที่ผู้ให้กู้กำหนดดังนี้ 19.1. คำนิยาม 19.1.1. “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความถึง ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ เป็นต้น) ข้อมูลการทำธุรกรรม และ/หรือ ข้อมูลใด ๆ ของผู้กู้ ที่ผู้กู้ได้ให้ไว้แก่ผู้ให้กู้ หรือที่ผู้ให้กู้ได้รับ หรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่น ที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม 19.1.2. “เครื่องมือเพื่อการทำรายการ” หมายความถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต และ/หรือ เครื่องมืออื่นใดตามที่ผู้ให้กู้กำหนด เพื่อการทำรายการ 19.1.3 “บริการ” หมายความถึง บริการบนแอปพลิเคชัน ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ รวมถึงบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นใดที่ผู้ให้กู้จะเปิดให้บริการแก่ผู้กู้เพิ่มเติมในภายหน้า 19.1.4. “ผู้ให้กู้” หมายความถึง บริษัท สบายใจมันนี่ จำกัด และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่ผู้ให้กู้มอบหมายด้วย 19.1.5. “รายการ” หมายความถึง คำขอ คำสั่ง หรือธุรกรรมต่าง ๆ ที่กระทำผ่านระบบ หรือบริการ 19.1.6. “รหัสประจำตัว” หมายความถึง บัญชีผู้กู้ (Login Name หรือ Username), รหัสผ่าน (Password), รหัส PIN (PIN – Person Identification Number), ลายนิ้วมือ, ข้อมูลทางชีวภาพ (เช่น ภาพใบหน้า เป็นต้น) (Biometric), รหัสผ่านเพื่อใช้งานอุปกรณ์เพื่อการทำรายการ, รหัส OTP – One Time Password รวมถึงรหัสอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใช้บริการไม่ว่าจะเรียกด้วยชื่อใด ๆ และไม่ว่าจะเป็นรหัสที่ผู้ให้กู้เป็นผู้กำหนดให้ หรือเป็นรหัสที่ผู้กู้เป็นผู้กำหนดเองก็ตาม 19.1.7. “เหตุสุดวิสัย” หมายความถึง เหตุใด ๆ อันอยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้ให้กู้ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการให้บริการ รวมถึงเป็นเหตุให้เกิดข้อขัดข้อง หรือข้อมูลผิดพลาด เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ให้กู้หรือระบบสื่อสารขัดข้องเพราะกระแสไฟฟ้าขัดข้อง หรือปัญหาด้านพลังงาน การกระทำของบุคคลภายนอก ไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลที่เป็นอันตรายต่างๆ (Harmful Data) 19.2. ข้อกำหนดและเงื่อนไขทั่วไป 19.2.1.ผู้กู้รับรองว่าข้อมูลที่ผู้กู้กรอกเพื่อลงทะเบียนนั้น เป็นข้อมูลที่ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริง โดยสมัครใช้งานแอปพลิเคชันเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพื่อตนเองเท่านั้น มิได้ดำเนินการเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่นใด 19.2.2 ผู้กู้รับรองว่าเป็นผู้ที่สามารถทำนิติกรรมได้ตามกฎหมาย โดยเป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้วตามกฎหมาย หรือยังไม่บรรลุนิติภาวะแต่ได้รับความยินยอมจากผู้กู้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทน หรือได้ดำเนินการใด ๆ เพื่อให้สามารถทำนิติกรรมใด ๆ บนแอปพลิเคชันได้โดยลำพังแล้ว 19.2.3 ผู้กู้รับทราบว่าในการใช้บริการบางประเภทบนแอปพลิเคชันนั้นอาจมีการจำกัดคุณสมบัติในการทำนิติกรรมหรือรายการ ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงของผู้ให้กู้ โดยผู้กู้สามารถศึกษาคุณสมบัติของบริการแต่ละประเภทได้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริการนั้นๆ 19.3. การใช้และการเก็บรักษารหัสประจำตัว ข้อมูลส่วนบุคคล และเครื่องมือเพื่อทำรายการ 19.3.1 ผู้กู้จะต้องกำหนดรหัสประจำตัวและข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้เพื่อยืนยันตัวตนตามรูปแบบและวิธีการที่ผู้ให้กู้กำหนด รวมถึงต้องรักษารหัสประจำตัวและ/หรือข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้เป็นความลับ และไม่เปิดเผยหรือกระทำการใด ๆ ที่อาจทำให้ผู้อื่นทราบรหัสประจำตัวและ/หรือข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยการทำรายการใด ๆ ผ่านรหัสประจำตัวและ/หรือข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กู้นั้น ผู้ให้กู้ถือว่ารายการดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นโดยการดำเนินการของผู้กู้หรือได้รับความยินยอมจากผู้กู้ และผู้กู้ตกลงที่จะไม่โต้แย้งความถูกต้องสมบูรณ์ของรายการดังกล่าว 19.3.2 ในกรณีที่ผู้กู้กำหนดอุปกรณ์เครื่องมือเพื่อทำรายการ หรือใช้งานวิธีการยืนยันตัวตนผ่านอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้กู้ต้องไม่ทำให้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ดังกล่าวตกอยู่ภายใต้การครอบครองของบุคคลอื่น 19.3.3. ผู้กู้สามารถเปลี่ยนแปลงรหัสประจำตัวเมื่อใดก็ได้ โดยดำเนินการตามวิธีการและเงื่อนไขที่ผู้ให้กู้กำหนด โดยในกรณีที่ผู้กู้เชื่อว่ามีบุคคลอื่นล่วงรู้รหัสประจำตัวของตน ผู้กู้ควรเปลี่ยนแปลงรหัสประจำตัวในทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น 19.3.4. กรณีที่ผู้กู้ลืมรหัสประจำตัว หรืออุปกรณ์เครื่องมือนั้นชำรุดหรือสูญหาย ผู้กู้ต้องดำเนินการตามขั้นตอน วิธีการ และเงื่อนไขที่ผู้ให้กู้กำหนดเพื่อเปลี่ยนรหัสประจำตัว และ/หรือ อุปกรณ์เพื่อทำรายการใหม่ ทั้งนี้ ผู้กู้ยอมรับว่าการทำธุรกรรมใด ๆ หรือการใช้บริการผ่านรหัสประจำตัวของผู้กู้ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนรหัสประจำตัวใหม่นั้น ให้มีผลผูกพันผู้กู้และผู้กู้ตกลงรับผิดชอบทุกประการ 19.3.5. ในบางกรณี รหัสประจำตัวอาจถูกส่งไปยังที่อยู่หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ผู้กู้ได้ให้ไว้แก่ผู้ให้กู้ ผู้กู้จึงมีหน้าที่ต้องจัดการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ และผู้กู้รับทราบว่าการปล่อยให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่เป็นปัจจุบันนั้นอาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือเกิดกรณีที่บุคคลอื่นสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยผู้ให้กู้จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่เหตุการณ์ดังกล่าวอันเนื่องมาจากการที่ท่านไม่ปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน 19.4. ความสมบูรณ์ของการใช้บริการ หรือธุรกรรม และผลผูกพันผู้กู้ 19.4.1. ผู้กู้ตกลงยอมรับว่าวิธีการดำเนินการใด ๆ โดยผ่านบริการของผู้ให้กู้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้เป็นวิธีการที่น่าเชื่อถือและยอมรับได้ระหว่างผู้กู้และผู้ให้กู้ รวมทั้งรับรองว่าเอกสาร และ/หรือ ข้อมูลใด ๆ ที่ผู้ให้กู้ได้รับจากผู้กู้ด้วยวิธีการดังกล่าวนั้นเป็นเอกสาร และ/หรือ ข้อมูลที่เชื่อถือได้และถูกต้องแท้จริง และใช้บังคับได้ระหว่างผู้กู้ ผู้ให้กู้และผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งนี้ ผู้ให้กู้ไม่ต้องตรวจสอบข้อมูล และ/หรือ รายละเอียดใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรายการการใช้บริการในครั้งนั้น ๆ ว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ด้วย 19.4.2. ผู้กู้รับรองว่า ภาพถ่าย ข้อมูลทางชีวภาพ (เช่น ภาพใบหน้า เป็นต้น) เอกสาร และ/หรือ ข้อมูลใด ๆ ที่ผู้ให้กู้ได้รับ และ/หรือ จะได้รับในภายหน้าจากผู้กู้ผ่านบริการ เป็นข้อมูลของผู้กู้ที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นจริงทุกประการ โดยผู้กู้ตกลงยินยอมให้ผู้ให้กู้เก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวไว้ในระบบฐานข้อมูลของผู้ให้กู้ เพื่อประโยชน์ในการให้บริการของผู้ให้กู้ และ/หรือ การใช้ทำธุรกรรม และ/หรือ ใช้บริการอื่น ๆ ของผู้กู้กับผู้ให้กู้ ตามวัตถุประสงค์ที่ผู้ให้กู้จะได้แจ้งในขณะเก็บ รวบรวม หรือใช้ข้อมูลนั้นหากข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง 19.4.3. ในกรณีที่ภาพถ่าย ข้อมูลทางชีวภาพ เอกสาร และ/หรือ ข้อมูลที่ผู้ให้กู้ได้รับจากผู้กู้ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน ไม่เป็นจริง หรือไม่เป็นปัจจุบัน ผู้กู้ตกลงให้ผู้ให้กู้มีสิทธิไม่ให้บริการ หรือระงับ หรือยกเลิกการทำธุรกรรม และ/หรือ การใช้บริการ และ/หรือบริการอื่นใด เมื่อใดก็ได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และผู้ให้กู้ไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น 19.4.4. ผู้กู้ตกลงและยอมรับว่าการกระทำใด ๆ ผ่านบริการของผู้ให้กู้ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการใช้บริการประเภทใด ๆ ก็ตาม หากได้กระทำไปโดยการใช้รหัสประจำตัวตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้แล้ว ให้ถือว่าถูกต้องสมบูรณ์และผูกพันผู้กู้ทุกประการ โดยผู้กู้ไม่ต้องลงลายมือชื่อในเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้น และผู้กู้ตกลงรับผิดชอบการกระทำดังกล่าวเสมือนหนึ่งว่าผู้กู้เป็นผู้กระทำด้วยตนเอง ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยผู้กู้ หรือบุคคลใด และไม่ว่าจะด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม นอกจากนี้ ผู้กู้ตกลงว่าการใช้รหัสประจำตัวถือเป็นการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย 19.4.5. ผู้กู้ยินยอมให้ถือว่าบรรดาเอกสาร และ/หรือ หลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมตามบริการต่าง ๆ (ถ้ามี) ของผู้กู้ และ/หรือ เอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการให้บริการของผู้ให้กู้ ซึ่งผู้ให้กู้ได้จัดทำขึ้นตามความประสงค์ของผู้กู้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ มีความถูกต้องและผูกพันผู้กู้ทุกประการ 19.4.6. ผู้กู้ตกลงยินยอมให้ผู้ให้กู้ตรวจสอบและสอบทานข้อมูลที่ได้ให้ไว้แก่ผู้ให้กู้กับหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานเอกชน หรือองค์กรอื่นใด เพื่อประกอบการสมัครใช้บริการหรือการให้บริการของผู้ให้กู้ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบความมีอยู่ของบัญชีหรือสถานะการเป็นสมาชิกของผู้กู้กับสื่อสังคมออนไลน์ (Social media) หรือแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อประกอบการพิจารณาให้บริการของผู้ให้กู้ 19.4.7. ผู้กู้ตกลงชำระค่าธรรมเนียมและค่าใช้บริการ รวมทั้งค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกี่ยวกับการใช้บริการตามอัตราและเงื่อนไขที่ผู้ให้กู้กำหนด 19.4.8. ในกรณีที่มีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นแก่ผู้ให้กู้ และ/หรือ บุคคลใด ๆ เนื่องจากการให้บริการ หรือการดำเนินการใด ๆ ตามความประสงค์ของผู้กู้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ โดยมิใช่ความผิดของผู้ให้กู้ หรือในกรณีที่ผู้กู้ใช้บริการ เพื่อกิจการใดซึ่งขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เช่น ทำรายการเพื่อชำระหนี้ที่เกี่ยวข้องกับซื้อขายอาวุธ หรือสนับสนุนการก่อการร้าย ผู้กู้ตกลงยินยอมรับผิดชอบชดใช้บรรดาค่าเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทุกประการ รวมถึงตกลงให้ผู้ให้กู้มีสิทธิระงับ ยับยั้ง ยกเลิก หรือเพิกถอนรายการหรือการดำเนินการใด ๆ ของผู้กู้ที่ขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนด้วย 19.4.9. ผู้กู้ตกลงให้ผู้ให้กู้มีสิทธิเพิ่ม เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ รวมทั้งค่าธรรมเนียม ค่าใช้บริการ และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการใช้บริการแต่ละประเภทที่ผู้ให้กู้เปิดให้บริการผ่านระบบของผู้ให้กู้ได้ตามแต่จะเห็นสมควร โดยผู้กู้ตกลงผูกพันปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ และ/หรือ ค่าธรรมเนียม ค่าใช้บริการ และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทุกประการ โดยในกรณีที่การเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงนั้นจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อการใช้บริการของผู้กู้ ผู้ให้กู้จะแจ้งให้ผู้กู้ทราบล่วงหน้าโดยการประกาศไว้บนเว็บไซต์ของผู้ให้กู้ และ/หรือ แจ้งไปยังผู้กู้ผ่านทางแอปพลิเคชัน และ/หรือ อีเมล และ/หรือ โดยวิธีการอื่นใดที่ผู้ให้กู้เห็นสมควร ไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนการเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับ เว้นแต่กรณีที่เป็นการดำเนินการใด ๆ อันจำเป็นเพื่อระงับหรือป้องกันความเสียหายแก่ผู้ให้บริการ เช่น การดำเนินการในกรณีผู้กู้ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไข หรือมีการกระทำอันเชื่อได้ว่ามีการใช้บริการผิดวัตถุประสงค์ หรือข้อมูลที่ผู้กู้ได้ให้ไว้นั้นไม่เป็นความจริงหรือไม่เป็นปัจจุบัน หรือความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้กู้มีการเปลี่ยนแปลงไป อนึ่ง หากการเพิ่ม หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการดังกล่าวเป็นผลให้ผู้กู้ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือมีภาระความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ในกรณีที่ผู้ให้กู้ไม่ได้รับแจ้งการคัดค้านการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้กู้ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ประกาศในเว็บไซต์ของผู้ให้กู้ และ/หรือ แจ้งไปยังผู้กู้ และหลังจากระยะเวลาดังกล่าวนั้นผู้กู้ยังคงใช้บริการต่อไป ให้ถือว่าผู้กู้ยินยอมและไม่มีข้อคัดค้านข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ ที่เพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงดังกล่าว 19.4.10.ผู้กู้ตกลงยอมรับผูกพันและปฏิบัติตามระเบียบ ข้อกำหนดและเงื่อนไข รวมถึงคู่มือ และเอกสารอธิบายวิธีการใช้บริการตามที่ผู้ให้กู้กำหนด ซึ่งผู้กู้ได้รับหรือถือว่าได้รับไว้แล้วในวันที่ทำคำขอใช้บริการ รวมทั้งตามที่ผู้ให้กู้จะได้กำหนดเพิ่มเติม แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงในภายหน้า ซึ่งให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ด้วย 19.5. การสมัครขอสินเชื่อและใช้บริการที่เกี่ยวข้องผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้กู้ 19.5.1. ผู้กู้สามารถสมัครขอสินเชื่อและใช้บริการที่เกี่ยวข้องได้ผ่านทางแอปพลิเคชันบนเครื่องมือเพื่อทำรายการของผู้กู้ ตามช่องทางและวิธีการที่ผู้ให้กู้กำหนด รวมทั้งได้รับอนุมัติจากผู้ให้กู้ ทั้งนี้ ผู้กู้ตกลงผูกพันและปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการที่ผู้ให้กู้กำหนดขึ้น และ/หรือ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการตามแต่ละฟังก์ชัน และ/หรือประเภทบริการที่ปรากฏขึ้นก่อน และ/หรือ ระหว่างที่ผู้กู้ทำรายการ (ถ้ามี) และให้ถือว่าข้อตกลง ข้อกำหนด และเงื่อนไขการใช้บริการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ด้วย 19.5.2. ในการเข้าใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันทุกครั้ง ผู้กู้ต้องใส่รหัสประจำตัวให้ถูกต้อง พร้อมปฏิบัติตามขั้นตอน วิธีการ และเงื่อนไขการใช้บริการที่ผู้ให้กู้กำหนดอย่างถูกต้องครบถ้วนทุกครั้ง 19.5.3. ผู้กู้สามารถเข้าใช้งานบริการและฟังก์ชันต่างๆ ในแอปพลิเคชันดังต่อไปนี้ และ/หรือ ที่ผู้ให้กู้จะกำหนดขึ้นในภายหน้า เพื่อทำรายการได้ตามขั้นตอน วิธีการ และเงื่อนไขที่ผู้ให้กู้กำหนด ตามระยะเวลาที่ผู้ให้กู้แสดงไว้ในข้อกำหนดของแต่ละบริการ 19.5.3.1. การใช้บริการเกี่ยวกับสินเชื่อ (1) ผู้กู้สามารถเลือกประเภทสินเชื่อและจัดทำคำขอสินเชื่อกับผู้ให้กู้ รวมทั้งสามารถตรวจสอบสถานะการขอสินเชื่อ รายละเอียดสินเชื่อ ตามขั้นตอนและวิธีการที่ผู้ให้กู้กำหนดผ่านแอปพลิเคชัน หรือผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นใดที่ผู้ให้กู้จะเปิดให้บริการเพิ่มเติมในภายหน้า (2) ผู้กู้สามารถเรียกดู ขอ และ/หรือ บันทึก ใบแจ้งยอดชำระ (Billing Statement) ตามขั้นตอนและวิธีการที่ผู้ให้กู้กำหนดผ่านแอปพลิเคชัน และสามารถดู ใบเสร็จรับเงิน (E-Receipt) ผ่านทางไลน์หรือผ่านทางอีเมลที่ผู้กู้ได้ให้ไว้ในคำขอสินเชื่อหรือผ่านทางช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นใดที่ผู้ให้กู้จะเปิดให้บริการเพิ่มเติมในภายหน้า (3) ผู้ให้กู้จะดำเนินการแจ้งเตือนวันครบกำหนดชำระหนี้ให้แก่ผู้กู้ผ่านฟังก์ชันการแจ้งเตือนในไลน์หรือข้อความ (SMS) หรืออีเมล หรือตามวิธีการและช่องทางที่ผู้ให้กู้กำหนด (4) ผู้กู้สามารถชำระหนี้ได้ตามขั้นตอนและวิธีการที่ผู้ให้กู้กำหนดผ่านแอปพลิเคชัน หรือผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นใดที่ผู้ให้กู้จะเปิดให้บริการเพิ่มเติมในภายหน้า 19.5.4. ผู้กู้ตกลงและยอมรับว่า ผู้ให้กู้จะส่งเอกสาร และ/หรือข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับบริการให้แก่ผู้กู้ ซึ่งรวมถึงหนังสือและเอกสารใด ๆ ที่จำเป็นตามกฎหมาย เช่น หนังสือแจ้งการส่งข้อมูลให้แก่ผู้ให้กู้ข้อมูลเครดิต ผ่านทางแอปพลิเคชัน และ/หรือ อีเมล ที่ผู้กู้ให้ไว้กับผู้ให้กู้ ซึ่งได้ผ่านการยืนยันจากผู้กู้ตามขั้นตอนและวิธีการที่ผู้ให้กู้กำหนดแล้ว และ/หรือ โดยวิธีการอื่นใดที่ผู้ให้กู้เห็นสมควรเท่านั้น 19.5.5. ผู้กู้ตกลงและยอมรับว่า หากผู้กู้เป็นผู้จัดส่งเอกสารของบุคคลอื่น เช่น พาสปอร์ตของผู้เดินทางรายอื่นๆ ผู้กู้ได้รับความยินยอมจากบุคคลในเอกสารดังกล่าวแล้ว 19.6. การยืนยันตัวตนและการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กู้ 19.6.1. ในการสมัครใช้บริการแต่ละบริการนั้น ผู้ให้กู้อาจกำหนดให้ผู้กู้ต้องมีการยืนยันตัวตนตามเกณฑ์หรือระดับที่แตกต่างกัน ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำคัญก่อนการอนุมัติให้ใช้บริการ ซึ่งผู้กู้รับทราบว่าการที่ผู้กู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตน หรือปฏิเสธการยืนยันตัวตนไม่ว่ากรณีใดและไม่ว่าในเวลาใด ๆ หรือการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่จำเป็น อาจเป็นเหตุให้ผู้กู้ถูกปฏิเสธการให้บริการ ระงับการใช้งานบัญชี หรือระงับการทำธุรกรรม ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ/หรือป้องกันความเสี่ยงตามนโยบายภายในของผู้ให้กู้ 19.6.2. เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กู้บริการแล้ว ผู้ให้กู้จะมีการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในขณะเก็บหรือรวบรวมข้อมูล และเป็นไปตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามที่ผู้ให้กู้ประกาศผ่านช่องทางต่าง ๆ 19.7. การเข้าถึงข้อมูลของผู้ให้บริการบุคคลที่สาม 19.7.1. ในบางกรณี ผู้ให้กู้อาจขอให้ผู้กู้อนุญาตให้ผู้ให้กู้เข้าถึงข้อมูลของผู้ให้บริการบุคคลที่สาม เพื่อประโยชน์ในการให้บริการของผู้ให้กู้ รวมถึงเพื่อประโยชน์ตามที่ผู้ให้กู้จะได้ระบุในขณะขอความยินยอม โดยในกรณีที่บริการนั้นมีความสำคัญและจำเป็นต่อการให้บริการของผู้ให้กู้ ผู้ให้กู้อาจปฏิเสธการให้บริการแก่ผู้กู้หากไม่ได้รับความยินยอมจากผู้กู้ ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงข้อมูลของผู้ให้บริการบุคคลที่สามเพื่อประโยชน์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้กู้ 19.7.2. ผู้กู้ตกลงให้ผู้ให้กู้เปิดเผยข้อมูลเท่าที่จำเป็นต่อผู้ให้บริการบุคคลที่สาม เพื่อประโยชน์ในการยืนยันความยินยอมของผู้กู้ต่อผู้ให้บริการบุคคลที่สาม รวมถึงอาจมีการเปลี่ยนทาง (Redirect) ผู้กู้ไปยังเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการบุคคลที่สามเพื่อให้ความยินยอมในระบบ (Environment) ของผู้ให้บริการบุคคลที่สามนั้น โดยผู้ให้บริการบุคคลที่สามนั้นอาจมีการบันทึกและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กู้เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบย้อนหลัง 19.8. การดำเนินการกรณีพบข้อผิดพลาด ในกรณีที่ผู้กู้พบว่ามีข้อผิดพลาดหรือมีความผิดปกติใด ๆ ในการใช้บริการ ผู้กู้จะต้องแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบโดยเร็วที่ ศูนย์บริการลูกค้าของผู้ให้กู้ หรือผ่านทางช่องทางบริการลูกค้าที่ผู้ให้กู้เปิดให้บริการ โดยอย่างน้อยต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับวันและเวลาที่ทำรายการ ข้อมูลผู้กู้ และของผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับการทำรายการที่มีข้อผิดพลาดดังกล่าวตามที่ผู้ให้กู้กำหนด โดยผู้ให้กู้และผู้กู้จะร่วมมือกันดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบสวนหาสาเหตุของข้อผิดพลาด รวมถึงแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวโดยเร็ว ทั้งนี้ ผู้ให้กู้จะแจ้งผลการดำเนินการให้ผู้กู้ทราบตามวิธีการและช่องทางที่ผู้ให้กู้เห็นสมควร เช่น ทางโทรศัพท์ หรือ อีเมล หรือโดยวิธีการและช่องทางอื่นใดที่ผู้ให้กู้จะได้กำหนดเพิ่มเติม 19.9. ความรับผิดและข้อยกเว้นความรับผิดของผู้ให้กู้ 19.9.1. บรรดาการกระทำใด ๆ ที่ผู้ให้กู้ได้กระทำไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ และ/หรือ ตามข้อมูลที่ผู้กู้ได้แจ้งต่อผู้ให้กู้ และ/หรือ ตามคำร้องขอของผู้กู้ และ/หรือ ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการใด ๆ ของผู้ให้กู้ ไม่ว่าที่มีอยู่แล้วในขณะนี้หรือที่จะมีขึ้นภายหน้า ให้มีผลผูกพันผู้กู้ทุกประการ และผู้ให้กู้ไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ อันเกิดขึ้นแก่ผู้กู้ และ/หรือ บุคคลใด ๆ ไม่ว่าจะโดยประการใดทั้งสิ้น เว้นแต่ (1) เกิดจากผู้ให้กู้จงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงไม่ปฏิบัติตามคำขอใช้บริการ หรือคำสั่งอายัดหรือระงับการใช้รหัสประจำตัวของผู้กู้ และเกิดการทำรายการผ่านระบบหรือบริการของผู้ให้กู้ขึ้น ทั้งนี้ ผู้กู้จะต้องจัดส่งคำขอใช้บริการ และ/หรือ ข้อมูล และ/หรือ แจ้งขออายัดหรือระงับการใช้รหัสประจำตัวดังกล่าว โดยถูกต้องตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้แล้ว หรือ (2) เกิดการทำรายการผ่านระบบหรือบริการของผู้ให้กู้โดยมิชอบและมิใช่ความผิดของผู้กู้ 19.9.2. ในกรณีที่ผู้ให้กู้ได้ให้บริการ หรืองดเว้นการให้บริการใด ๆ แก่ผู้กู้ เมื่อเกิดกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ผู้กู้ตกลงว่า ผู้ให้กู้ไม่ต้องรับผิดต่อผู้กู้ และ/หรือ บุคคลใดทั้งสิ้น (1) ผู้กู้ถูกระงับการใช้วงเงินสินเชื่อกับผู้ให้กู้ (2) ผู้กู้อยู่ระหว่างถูกดำเนินการทางกฎหมาย (3) ผู้ให้กู้ได้แจ้งให้ผู้กู้ทราบถึงความขัดข้องของการให้บริการอยู่แล้วก่อนหรือในขณะทำรายการ และ/หรือใช้บริการนั้น (4) ผู้กู้ตกเป็นผู้ผิดนัด หรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ หรือข้อตกลงใด ๆ ที่มีอยู่กับผู้ให้กู้ (5) มีเหตุทางกฎหมาย กฎระเบียบทางราชการ คำสั่งของศาล หน่วยงานของรัฐ พนักงานสอบสวน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการใช้บริการ หรือการให้บริการ หรือการเข้าทำรายการ หรือปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ (6) เป็นเหตุสุดวิสัย 19.10. การระงับ และ/หรือ การยกเลิกการให้บริการ ผู้ให้กู้มีสิทธิที่จะไม่ให้บริการ หรือระงับ หรือยกเลิกการให้บริการประเภทหนึ่งประเภทใดหรือทั้งหมดเมื่อใดก็ได้ โดยแจ้งให้ผู้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 (สามสิบ) วัน เว้นแต่กรณีที่ผู้กู้ผิดคำรับรองที่ได้ให้ไว้แก่ผู้ให้กู้ ไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติผิดข้อตกลง ข้อกำหนด หรือเงื่อนไขใด ๆ ที่ระบุไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ หรือเอกสารใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ หรือสัญญาใด ๆ ที่ผู้กู้มีต่อผู้ให้กู้ หรือกรณีที่ผู้ให้กู้เห็นว่าการดำเนินการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ หรือกิจกรรมหรือการทำธุรกรรมใด ๆ ของผู้กู้อาจเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีพฤติการณ์อันน่าเชื่อว่ามีการใช้บริการหรือการทำรายการในที่ขัดต่อพฤติการณ์ปกติ หรือโดยทุจริต หรือโดยมิชอบไม่ว่าด้วยประการใด ๆ หรือมีเหตุจำเป็นอื่นใด ซึ่งไม่อาจแจ้งล่วงหน้าได้ ผู้ให้กู้จะแจ้งให้ผู้กู้ทราบโดยเร็ว 19.11. การเก็บรวมรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล 19.11.1.ในการใช้บริการของผู้กู้ ผู้ให้กู้จะมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กู้ และ/หรือ ของบุคคลอื่นที่ผู้กู้ได้ให้ข้อมูลไว้แก่ผู้ให้กู้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการตามสัญญานี้ และวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ให้กู้ โดยผู้กู้สามารถอ่านเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจถึงวิธีการที่ผู้ให้กู้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ผู้ให้กู้ได้ประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของผู้ให้กู้ที่ https://www.sabaijaimoney.co.th/privacy-policy/ และ/หรือ ช่องทางที่ผู้ให้กู้กำหนด หรือตามที่ผู้ให้กู้จะเปลี่ยนแปลงในภายหน้าและแจ้งให้ผู้กู้ทราบโดยประกาศในเว็บไซต์ดังกล่าว และ/หรือ ช่องทางที่ผู้ให้กู้กำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้กู้ได้มีการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น ผู้กู้มีหน้าที่แจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิตามประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวดังกล่าวด้วย 19.11.2.ผู้กู้รับทราบและตกลงให้ผู้ให้กู้สามารถบันทึกบทสนทนาระหว่างผู้กู้กับผู้ให้กู้ และ/หรือ จัดเก็บ และ/หรือ บันทึก และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับผู้กู้ และ/หรือ รายการการใช้บริการ และ/หรือ การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของผู้กู้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงการบริการของผู้ให้กู้ และ/หรือ เพื่อการใด ๆ อันเป็นประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ให้กู้ และเพื่อเป็นหลักฐานการบริการ และรายการใช้บริการ โดยผู้กู้ตกลงให้ใช้บันทึกการสนทนาและข้อมูลดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานอ้างอิงต่อผู้กู้ได้ตามกฎหมาย โดยผู้กู้จะไม่โต้แย้งแต่ประการใดทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ ผู้ให้กู้ไม่มีหน้าที่ต้องบันทึกหรือเก็บรักษาบันทึกบทสนทนา และ/หรือ ข้อมูลดังกล่าว 19.11.3.ผู้กู้ยินยอมให้ผู้ให้กู้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ โดยให้ความยินยอมนี้ยังคงมีผลอยู่ แม้ว่าผู้กู้จะไม่ได้ทำธุรกรรมกับผู้ให้กู้ต่อไปแล้วก็ตาม (1) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง (ก) การดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับกระบวนการสินเชื่อ การวิเคราะห์ข้อมูล การบริหารกิจการของผู้ให้กู้ (ข) ตรวจสอบรายการที่อาจจะเกิดการทุจริต ธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย (ค) ปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบของประเทศใด ๆ ที่ใช้บังคับกับผู้ให้กู้ (ง) ปฏิบัติตามเกณฑ์การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉ) เปิดเผยต่อผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอกของผู้ให้กู้ สถาบันการเงิน หน่วยงานราชการ (จ) การดำเนินการใด ๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (2) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างผู้ให้บริการกับลูกค้า (ก) ส่งต่อ เก็บ และประมวลผลบนระบบของผู้ให้บริการ Cloud Computing ที่ผู้ให้กู้ใช้บริการ ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ (ข) เปิดเผยต่อผู้รับจ้างหรือผู้ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการปฏิบัติตามสัญญาที่ผู้กู้มีต่อผู้ให้กู้ หรือผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือหน้าที่ของผู้ให้กู้ (3) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่ผู้ให้กู้จะได้แจ้งให้ผู้กู้ทราบเป็นครั้งคราวในอนาคต 19.12. ข้อมูลการติดต่อและการส่งคำบอกกล่าว 19.12.1.เมื่อผู้กู้เปลี่ยนแปลงชื่อและนามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หรือ อีเมล รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใด จากที่ระบุไว้เดิมในการสมัครใช้บริการหรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ภายหลังจากสมัครใช้บริการ ผู้กู้จะต้องแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ผ่านทางไลน์ @sabaijaimoneyth หรืออีเมล contact@sabaijaimoney.co.th หรือโดยวิธีการและช่องทางอื่นใดที่ผู้ให้กู้จะได้กำหนดเพิ่มเติม 19.12.2.เอกสารหรือหนังสือใด ๆ ที่ผู้ให้กู้ส่งไปยังผู้กู้ ตามที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และ/หรือ อีเมล ตามที่ผู้กู้แจ้งไว้ในการสมัครใช้บริการหรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ภายหลังจากสมัครใช้บริการแล้ว ให้ถือว่าได้ส่งโดยชอบและผู้กู้ได้ทราบข้อความในเอกสาร หนังสือ หรือข้อมูลนั้น ๆ แล้ว 19.13. การโอนสิทธิ และการว่าจ้างหรือมอบหมายให้บุคคลภายนอกให้บริการ 19.13.1.สิทธิใด ๆ ของผู้กู้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ ถือเป็นการเฉพาะตัวของผู้กู้ ซึ่งผู้กู้จะโอนสิทธิ หรือนำไปก่อสิทธิในทางหลักประกัน หรือดำเนินการโดยประการใดๆ ที่จะมีผลในลักษณะทำนองเช่นนั้นไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้กู้ก่อน 19.13.2.ผู้กู้ตกลงยินยอมให้ผู้ให้กู้มีสิทธิว่าจ้าง และ/หรือ มอบหมาย และ/หรือ ดำเนินการใดๆ ให้บุคคล หรือนิติบุคคลอื่นมาให้บริการส่วนหนึ่งส่วนใดสำหรับการให้บริการ รวมถึงโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่ของผู้ให้กู้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ได้ ตามที่ผู้ให้กู้เห็นสมควร 19.14. กรณีที่ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการขัดหรือแย้งกัน ในกรณีที่ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดเฉพาะของบริการแต่ละประเภทภายใต้บริการนี้ ให้บังคับใช้ตามข้อกำหนดเฉพาะของบริการแต่ละประเภทนั้น ๆ 19.15. กฎหมายที่ใช้บังคับ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ให้ใช้บังคับและตีความตามกฎหมายไทย และให้ศาลไทยเป็นศาลที่มีเขตอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการใช้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ ข้อ 20. การผ่อนชำระราคาโปรแกรมทัวร์หรือค่าบริการเอเย่นต์ ในการใช้บริการผ่อนชำระราคาโปรแกรมทัวร์และสินค้าหรือบริการของเอเย่นต์ ผู้กู้ตกลงใช้สินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระราคาสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนเงินที่ตกลงกันระหว่างผู้กู้กับเอเย่นต์(“วงเงินสินเชื่อ”) โดยผู้กู้ตกลงให้ผู้ให้กู้ชำระเงินตามวงเงินสินเชื่อให้แก่เอเย่นต์แทนผู้กู้ ทั้งนี้ ผู้กู้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือระยะเวลาผ่อนชำระภายหลังการอนุมัติ และผู้กู้สามารถสอบถามยอดหนี้ทั้งหมดที่ต้องชำระหากประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีก่อนกำหนด ผู้กู้ได้อ่านและเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญานี้แล้ว เห็นว่าถูกต้อง ตรงตามเจตนาและความประสงค์ของผู้กู้ทุกประการ และผู้กู้ใส่ PIN ของผู้กู้ซึ่งถือเป็นลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ไว้ในสัญญานี้เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญให้แก่ผู้ให้กู้ *ทั้งนี้ผู้กู้สามารถตรวจสอบอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขอื่นๆได้ที่เว็บไซต์ www.sabaijaimoney.co.th